Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

สารจากนางอังคณา นีละไพจิตร

หมวดหมู่ : บล็อก

สารจากนางอังคณา นีละไพจิตร

ในวาระรำลึก 1 ปี พอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) และ 11 ปี ทนายสมชายถูกบังคับสูญหาย

"ที่นี่แก่งกระจาน...ที่นี่มีคนหาย

17 เมษายน 2558

วันนี้เป็นวันครบ ๑ ปีที่นายพอละจี หรือบิลลลี่ถูกบังคับให้สูญหาย บิลลี่ไม่ใช่คนแรกที่ถูกบังคับให้หายสาบสูญภายหลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากบิลลี่แล้วภายในช่วงระยะเวลาเพียง ๑๐ ปี ที่ผ่านมามีผู้คนอีกกว่า ๖๐ คน ที่ต้องหายสาบสูญภายใต้นโยบายบางประการของรัฐ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อการบังคับให้สูญหายมักเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อย นอกจากนี้นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิที่ดินก็มักเสี่ยงต่อการถูกสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม และการบังคับให้สูญหาย

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐบางคน อาจคิดว่า “ปัญหาจะหายไป ถ้าคนบางคนถูกทำให้หายไป” แต่ความเป็นจริงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ความคิดดังกล่าวไม่สามารถยุติเจตนาที่มุ่งมั่นในการปกป้องรักษาอุดมการณ์ของผู้รักความเป็นธรรมได้ การสูญหายของบิลลี่ หรือสมชายจึงย้ำเตือนต่อผู้ปกครองที่อธรรมว่าการฆ่าและทำลายศพ จะไม่สามารถปกปิดการกระทำผิดของพวกเขาได้อีกต่อไป

บิลลี่อาจไม่ใช่คนสุดท้ายที่ต้องถูกบังคับให้สูญหาย หากสังคมไทยยังไม่มีมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันบุคคลทุกคนจากการสูญหายโดยถูกบังคับ ประสบการณ์ของเหยื่อถูกบังคับให้สูญหายในประเทศไทยบอกกับเราว่า รัฐบาลแต่ละยุคสมัยขาดความจริงใจในการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้สูญหาย และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ อุปสรรคความล่าช้าในการหาพยานหลักฐาน การข่มขู่คุกคาม หรือการแทรกแซงคดี ล้วนส่งผลต่อการเข้าถึงความยุติธรรมของเหยื่อทั้งสิ้น

ในระหว่างที่สังคมไทยกำลังร่วมกันรียกร้องให้มีมาตรฐานในการปกป้องบุคคลทุกคนจากการบังคับสูญหาย พอละจี รักจงเจริญ สมชาย นีละไพจิตร และผู้ถูกบังคับสูญหายนิรนามอีกมมากมายในสังคมไทย จึงยังคงเป็นเสมือน “ผู้ดำรงอยู่” เพื่อย้ำเตือนสังคมไทยว่าเรายังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่มีความปลอดภัย เป็นนิติรัฐ ปราศจากการลุแก่อำนาจของผู้ปกครอง และมีกระบวนการยุติธรรมที่เป็นเสมือนหลักประกันว่าคนทุกคนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายอย่างแท้จริง

การจัดกิจกรรมรำลึกถึงผู้สูญหายนายบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญในวาระครบ 1 ปี และเป็นปีเดียวกับที่นายสมชาย นีละไพจิตรได้สูญหายไปเป็นเวลา 11 ปี รวมถึง “ผู้สูญหายนิรนาม” อีกมากมายในประเทศไทย จึงเป็นประหนึ่งการประกาศต่อสาธารณะว่า ประชาชนคนไทย ยังคงมีเจตจำนงค์มุ่งมั่นร่วมกันในความพยายามเพื่อป้องกัน และยุติการบังคับสูญหาย ยุติวัฒนธรรมการลอยนวลของผู้กระทำผิดในประเทศไทย “เรา” ทุกคนมาที่นี่เพื่อร่วมกันปักหมุดว่า ที่นี่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีผู้บริสุทธิ์ต้องถูกบังคับให้สูญหาย เราทุกคนในฐานะพลเมืองขอร่วมเรียกร้องต่อรัฐบาล และทุกหน่วยงาน ที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม ต้องยุติการปกป้องผู้กระทำผิด ต้องสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่จนกว่าจะพบตัว “บิลลี่” และผู้สูญหายในประเทศไทยทุกคน และต้องมีการเยียวยาเหยื่อและครอบครัวอย่างเหมาะสม และไม่เลือกปฏิบัติ

บิลลี่ และสมชาย นีละไพจิตร ไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายที่ถูกบังคับให้สูญหาย ยังมีบุคคลนิรนามอีกมาย ที่ถูกอธรรมไม่ต่างจากเขา บุคคลเหล่านี้จึงเป็นเสมือนอิฐก้อนแรกในการถามหามาตรฐานความเป็นธรรม และจริยธรรมสำหรับพลเมืองไทย เราทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นร่วมกันว่าเราจะไม่ยอมให้รัฐรังแกประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป เราจะร่วมเรียกร้องจนกว่าความยุติธรรมจะกลับคืนมา