Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

เมื่อเด็กอายุ 11 ขวบถูกบังคับให้แต่งงาน เธอหนีได้อย่างไร?

หมวดหมู่ : ข่าวสิทธิมนุษยชน

ปัญหาความรุนแรงทางเพศยังคงเกิดขึ้นกับผู้หญิง ไม่ว่าจะยากดีมีจน ผู้หญิงทั่วโลกต่างก็ประสบปัญหาเดียวกัน คือตกอยู่ในอันตรายจากการคุกคามทางเพศและการถูกทารุณกรรม ทั้งจากคนในครอบครัวและคนที่รัก ปัญหาหนึ่งที่เด็กสาวจำนวนไม่น้อยกำลังประสบคือการถูกบังคับให้แต่งงานในวัยเด็ก ทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนต้องหันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง 

จากข้อมูลของ UNFPA ในรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ประชากรโลก ประจำปี 2556 ระบุว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีเด็กผู้หญิงประมาณ 50 ล้านคนที่แต่งงานก่อนอายุ 15 ปี นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก 

เรื่องราวของซาฮาร์ กุล (Sahar Gul) สะท้อนให้เห็นปัญหาการถูกบังคับให้แต่งงานในวัยเด็ก และความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงได้ชัดเจนมาก เธอให้ข้อมูลกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลว่า ตอนอายุเพียง 11 ขวบ ครอบครัวขายเธอให้เป็นเจ้าสาวเพื่อแต่งงานกับฆูลาม ซากิ (Ghulam Saki) ชายอายุ 30 ปี ที่เป็นทหารในกองทัพอัฟกานิสถาน เขาซื้อตัวเธอมาในราคา 260,000 อัฟกานี (ประมาณ 150,000 บาท) และนำตัวเธอมาที่บ้านซึ่งเขาอาศัยอยู่กับครอบครัว

“หนูแต่งงานตอนอายุเพียง 11 ขวบ ตอนนั้นหนูยังเด็กมาก และไม่เข้าใจว่าชีวิตแต่งงานเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นหลังพิธีสมรส ตอนที่หนูเห็นผู้หญิงมาที่บ้านเพื่อเอาตัวหนูไป หนูได้แต่ร้องไห้ และไม่อยากไป แต่ไม่มีใครสนใจน้ำตาของหนูเลย ไม่มีใครสนใจฟังเสียงของหนูเลย ไม่มีใครรับรู้ว่าหนูไม่ต้องการไปอาศัยอยู่กับคนอื่น มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก”

หลังแต่งงานได้ไม่นาน ซาฮาร์ก็หายตัวไปเป็นเวลาหลายเดือน สุดท้ายครอบครัวได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ว่าเธอหายตัวไป ต่อมาเจ้าหน้าที่พบเธอในสภาพที่แทบไม่ได้สติ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว และไม่สามารถพูดจาหรือยืนได้

เธอเล่าว่าถูกขังไว้ในห้องใต้หลังคาที่ทั้งมืดและเปียกชื้นในบ้านของครอบครัวสามี พวกเขาได้ทุบตีทำร้ายเธอ เนื่องจากเธอขัดขืนไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับชายคนอื่น

ซาฮาร์ให้ข้อมูลกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในเวลาต่อมาว่า ครอบครัวสามีได้ทุบตีเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก เอาบุหรี่และแท่งเหล็กเผาไฟมาจี้ตามลำตัว มีการดึงเล็บมือและผมของเธอ เธอต้องตกอยู่ในสภาพนั้นนานถึงหกเดือน

หลังจากเธอบอกเพื่อนบ้านว่าถูกทำร้ายร่างกาย ครอบครัวของสามีก็ขังเธอไว้ในห้องใต้หลังคา แทบจะไม่ยอมให้น้ำให้อาหารกับเธอเลย แม้ว่าเพื่อนบ้านจะไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเธอทันที แต่ยังปล่อยให้เธอตกอยู่ในเงื้อมมือของครอบครัวสามีและถูกทารุณต่อไป

สามีและพี่ชายหรือน้องชายของเขาได้หลบหนีไป เมื่อตำรวจมาที่บ้าน ทุกวันนี้ยังไม่สามารถตามหาตัวเขาพบ ตำรวจได้จับกุมแม่สามี พี่สาวหรือน้องสาวของสามีและพ่อสามี ศาลตัดสินว่าทั้งหมดมีความผิดฐานพยายามฆ่า และถูกลงโทษจำคุก 10 ปี

แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนในเบื้องต้น แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์ในกรุงคาบุลได้กลับคำพิพากษา บรรดาญาติของสามีได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำหลังจากถูกขังอยู่หนึ่งปีครึ่ง แต่เมื่อมีการอุทธรณ์ในชั้นต่อมา ศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุกพวกเขา 5 ปี

เรื่องราวของซาฮาร์ กุลได้รับการบอกเล่าอย่างแพร่หลายในอัฟกานิสถาน โดยทางการมักเพิกเฉยเมื่อมีคนมาแจ้งความว่ามีการทำร้ายกันในครอบครัว โดยถือว่าเป็นเรื่องของแต่ละครอบครัว และมักไม่เข้ามาแทรกแซงให้ความคุ้มครองกับผู้เสียหาย

ในปัจจุบัน ซาฮาร์มีอายุ 16 ปี เธออาศัยอยู่ในบ้านพักฉุกเฉินและกำลังเรียนต่อที่โรงเรียนในพื้นที่ เธอตั้งใจที่จะทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กผู้หญิงคนอื่นต้องประสบชะตากรรมแบบเดียวกับเธอ เธอมีความฝันว่าจะเป็นนักการเมืองของอัฟกานิสถาน

“หนูมีเป้าหมายที่จะเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้หญิง อยากจะเปิดบ้านพักฉุกเฉินให้กับผู้หญิงในอัฟกานิสถาน และช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความรุนแรง หนูต้องการคุ้มครองผู้หญิงคนอื่น ๆ หนูคิดว่าถ้าที่ผ่านมาไม่มีคนอื่นมาช่วยปกป้องหนู หนูอาจถูกครอบครัวสามีฆ่าตายไปแล้ว หนูต้องการยุติความรุนแรงในอัฟกานิสถาน....หนูไม่ต้องการเห็นผู้หญิงคนอื่นต้องทนทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับที่หนูเคยประสบมา หรือในลักษณะอื่น ๆก็ตาม”

สิ่งที่ซาฮาร์ควรขอบคุณมากที่สุดคือจิตใจอันเข้มแข็งของตัวเองที่ไม่ยอมจำนนต่อสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร และกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องอนาคตของตัวเอง ขอเป็นกำลังให้ผู้หญิงทุกคนที่กล้าลุกขึ้นมาเปล่งเสียงที่เคยเงียบงันให้ดังขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้โลกได้รับรู้ว่าพวกเธอกำลังประสบชะตากรรมเช่นไร และต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม