Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

ประเทศไทย: การปราบปรามรุนแรงพร้อมกับการจับกุมแกนนำระดับสูง และการเรียกตัวเพิ่มเติมโดยศาลทหาร

หมวดหมู่ : ข่าวสิทธิมนุษยชน
© PORNCHAI KITTIWONGSAKUL/AFP/Getty Images

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล  

แถลงการณ์ (คำแปล)

6 มิถุนายน 2557

ประเทศไทย: การปราบปรามรุนแรงพร้อมกับการจับกุมแกนนำระดับสูง และการเรียกตัวเพิ่มเติมโดยศาลทหาร

               การจับกุมแกนนำผู้ประท้วงระดับสูงและการออกหมายเรียกตัวของศาลทหาร กรณีผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสงบเจ็ดคน เป็นปฏิบัติการล่าสุดของกองทัพไทยในการปราบปรามสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและขยายวงกว้างมากขึ้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว

                นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางสังคมคนสำคัญได้ถูกจับกุมเมื่อคืนนี้ที่จังหวัดชลบุรี ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้มารายงานตัวต่อกองทัพ และระหว่างการซ่อนตัวได้ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเรียกร้องให้มีการประท้วงอย่างสงบ

                “นายสมบัติ บุญงามอนงค์ควรได้รับการปล่อยตัวโดยทันที เว้นแต่จะมีการตั้งข้อหาอาญาตามกฎหมาย และให้มีการควบคุมตัวระหว่างรอการไต่สวนโดยศาลพลเรือนที่เป็นอิสระ นับเป็นปฏิบัติการที่สร้างปัญหาอย่างมากกรณีการจับกุมบุคคลเพียงเพราะการแสดงความไม่เห็นด้วยต่อระบอบทหาร ปฏิบัติการของทหารมีลักษณะเป็นการปราบปรามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” ริชาร์ด เบนเน็ต (Richard Bennett) ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว  

                แนวโน้มที่น่ากังวลอีกประการหนึ่ง ได้แก่ ศาลทหารจังหวัดเชียงรายได้มีหมายเรียกตัวบุคคลเจ็ดคน ซึ่งเข้าร่วมการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต่อการรัฐประหาร ในขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการซึ่งถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้รับการประกันตัวจากศาลทหารที่กรุงเทพฯ แต่น่าจะถูกฟ้องต่อศาลในข้อหาแสดงการต่อต้านอย่างสงบต่อการรัฐประหาร

                “ต้องมีการยกเลิกข้อกล่าวหาโดยทันทีต่อผู้ประท้วงอย่างสงบทั้งเจ็ดราย นายจาตุรนต์ ฉายแสงและบุคคลอื่นที่ถูกควบคุมตัวเพียงเพราะแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างสงบ แทนที่จะเพิ่มการปราบปราม ทางการต้องยกเลิกคำสั่งใด ๆ ที่ประกาศตามกฎอัยการศึก ซึ่งนำไปสู่การจำกัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง” นายริชาร์ด เบนเน็ตกล่าว

                “การนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหารเป็นการแสดงความดูแคลนต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ศาลทหารละเมิดสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และไม่เปิดให้มีการอุทธรณ์คดี”

                นับแต่ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ระบอบทหารได้ใช้มาตรการปราบปรามมากขึ้นเพื่อกดขี่และป้องกันไม่ให้มีการประท้วงจากนักการเมือง นักวิชาการ และนักเคลื่อนไหว ถือว่าขัดกับพันธกรณีของไทยที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

                ที่ผ่านมาทางกองทัพได้เรียกตัวบุคคลกว่า 300 คนให้มารายงานตัว ส่วนใหญ่จะถูกควบคุมตัวโดยพลการเป็นเวลานานเกือบสัปดาห์

                ที่ผ่านมามีการพุ่งเป้าไปยังผู้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และบุคคลที่ถูกข้อหาดังกล่าว เป็นเหตุให้พวกเขาถูกควบคุมตัวโดยพลการและอาจได้รับการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมในศาลทหาร และเสี่ยงจะถูกคุมขังเป็นเวลาหลายปี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกังวลกับการที่ระบอบทหารอาจใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างกว้างขวางเพื่อลงโทษผู้ประท้วงอย่างสงบ ในขณะที่เพิ่มการปราบปรามมากขึ้น

                ที่ผ่านมาทางการได้เพิ่มอำนาจการฟ้องคดีต่อศาลทหาร โดยให้รวมถึงความผิดที่เกิดก่อนการสถาปนาระบอบทหาร

                “การปราบปรามของกองทัพต่อผู้ประท้วงอย่างสงบต้องยุติลงโดยทันที และต้องยุติการควบคุมตัวบุคคลโดยพลการและไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก รวมทั้งการใช้โทษจำคุกเพื่อคุกคามผู้ประท้วงอย่างสงบ มาตรการอื่นใดที่ขัดขวางไม่ให้มีการอภิปรายและโต้เถียงทางการเมือง และการขัดขวางไม่ให้บุคคลมีส่วนร่วมในชีวิตสาธารณะ ต้องยุติลงเช่นกัน” ริชาร์ด เบนเน็ตกล่าว

                กองทัพได้ใช้มาตรการเซ็นเซอร์สื่อ ทั้งสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งสื่อใหม่อื่น ๆ มีการส่งทหารไปประจำการที่สื่อมวลชนที่สำคัญทุกแห่ง และมีการปิดกั้นการออกอากาศสถานีวิทยุหลายพันแห่งและโทรทัศน์หลายช่อง ผู้สื่อข่าวยังตกเป็นเป้าการเรียกตัวและควบคุมตัวโดยกองทัพเช่นกัน 

For English : http://www.amnesty.org/en/news/thailand-deepening-repression-high-profile-activist-arrested-others-summoned-military-courts-20

ป้ายคำ: 

  • แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
  • สิทธิมนุษยชน
  • ประเทศไทย
  • รัฐประหาร
  • นายสมบัติ บุญงามอนงค์
  • นายจาตุรนต์ ฉายแสง