ชาวไอร์แลนด์โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้คนรักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้

ชาวไอร์แลนด์โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้คนรักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ประเทศไอร์แลนด์ได้ประกาศผลการลงประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญสนับสนุนความเสมอภาคในการแต่งงาน  ผลปรากฏว่าประชาชนมากกว่า 62% โหวตหนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดโอกาสให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน 2558 นี้

ไอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่ 19 ในโลกที่ให้สิทธิความเท่าเทียมในการแต่งงานของประชาชน และเป็นประเทศที่มีการผ่านร่างกฎหมายให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้โดยผ่านการลงคะแนนเสียงจากประชาชนโดยตรง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไอร์แลนด์ได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์เพื่อสนับสนุนการทำประชามติในเรื่องนี้  มาตั้งแต่ปี 2550 เพราะมีจุดยืนในการเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกยุติการเลือกปฏิบัติทางเพศเกี่ยวกับการกำหนดกฎหมายแต่งงานของประชาชน

โคม โอ กอร์แมน ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไอร์แลนด์ กล่าวว่า คะแนนเสียงของประชาชนชาวไอร์แลนด์ในการทำประชามติครั้งนี้มีความหมายและสำคัญอย่างมาก ไม่เฉพาะต่อชาวไอร์แลนด์แต่ยังสะท้อนไปถึงผู้คนทั่วโลกด้วย เปรียบเสมือนการส่งสารไปถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศว่า “ความสัมพันธ์และครอบครัวของพวกเขานั้นสำคัญต่อการได้รับสิทธิเทียบเท่ากับชายหญิงทั่วไปทุกประการ และสามารถได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน”  อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลที่ยังเลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่ ให้เพิ่มความตระหนักในเรื่องนี้ยิ่งขึ้น  และที่สำคัญที่สุดคือคะแนนเสียงครั้งนี้ได้ส่งความหวังไปยังผู้ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เสรีภาพ และความเท่าเทียมทั่วโลกด้วย

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไอร์แลนด์ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ และเรารู้สึกดีใจกับผลการลงมติในครั้งนี้ ตอนทำการรณรงค์เราเองรู้สึกมีกำลังใจอย่างมาก เพราะการรณรงค์โดยส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก มีเสียงตอบรับที่ดี และมีความสนุกสนาน หลักฐานที่สามารถยืนยันคำพูดนี้ได้ คือการที่ผู้คนนับพันทั้งในเมือง และหมู่บ้านรอบนอกต่างมารวมตัวกันพร้อมธงสีรุ้งและข้อความที่ว่า “Yes Equality” แล้วเดินรณรงค์ไปตามถนนต่างๆ ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ และชัยชนะครั้งนี้ก็เป็นของพวกเขาทุกคน”

จอห์น ดาลฮุยเซน ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง กล่าวว่า ถ้าถามถึงความยุติธรรม ความเท่าเทียม และการเคารพซึ่งกันและกัน ประเทศไอร์แลนด์ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มาก นั่นแสดงให้เห็นว่าประชาชนชาวไอร์แลนด์เลือกยืนอยู่ข้างความถูกต้อง โดยการร่วมกันยุติอคติที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในอดีต ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีไปยังผู้คนอีกทั่วโลกที่พยายามต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมให้มีกำลังใจยืนหยัดต่อไป

สำหรับชัยชนะของการทำประชามติครั้งนี้เป็นผลมาจากการรณรงค์ของกลุ่มภาคประชาสังคม เช่น Marriage Equality The Irish Council for Civil Liberties และ GLEN (Gay and Lesbian Equality Network)

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอแสดงยินดีกับการลงคะแนนเสียงครั้งประวัติศาสตร์ของไอร์แลนด์ในการสนับสนุนความเสมอภาคในการแต่งงานครั้งนี้ด้วย