Print9 พฤษภาคม 2555
ชายไนจีเรียวัย 31 ปี ผู้ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตในขณะที่เป็นเยาวชน ได้กล่าวแสดงความยินดีหลังจากถูกปล่อยตัวจากเรือนจำและได้กลับสู่อ้อมอกของครอบครัวหลังจากที่ถูกจำคุกเป็นระยะเวลานาน พร้อมๆ กับการรณรงค์อย่างไม่ลดละโดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
แพทริก โอโกโรฟอร์ (Patrick Okoroafor) มีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้นในขณะที่เขาถูกจับกุมเมื่อปี 2538 และอายุเพียง 16 ปี ในขณะที่เขาถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยข้อหาปล้นทรัพย์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่เขาปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำ
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มองว่าการพิจารณาคดีของแพทริก โอโกโรฟอร์ เป็นไปอย่างไม่เป็นธรรมอย่างเห็นได้ชัดและได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
แพทริก โอโกโรฟอร์ กล่าวในระหว่างที่ได้รับการปล่อยตัวว่า "หลังจากที่แอมเนสตี้เรียกร้องให้ปล่อยตัวผมจากเรือนจำและหลังจากที่ผมได้อ่านจดหมาย การ์ด และข้อความนับพันฉบับที่ผู้สนับสนุนแอมเนสตี้ส่งมาหาผม ผมก็เริ่มมีความหวังว่าจะได้เป็นอิสระในอีกไม่นาน"
แพทริก โอโกโรฟอร์ ได้รับการนำเสนอในกิจกรรมการเขียนจดหมายรณรงค์เป็นประจำ โดยได้รับจดหมายและการ์ดมากกว่า 10,000 ฉบับ
ทางการรัฐไอโมของไนจีเรีย ได้ลดบทลงโทษของแพทริก โอโกโรฟอร์ จากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตหลังจากที่เขาถูกตัดสินประหารชีวิต ต่อมาในเดือนตุลาคม 2544 ศาลสูงสุดตัดสินว่าการตัดสินลงโทษประหารชีวิตของเขาขัดกับหลักกฎหมาย เป็นโมฆะ และได้แก้ไขบทลงโทษเป็นการคุมขัง "ตามความพึงพอใจของผู้ว่าฯ" หรือการคุมขังอย่างไม่มีกำหนดนั่นเอง
ในปี 2552 หนึ่งปีหลังจากที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ริเริ่มการรณรงค์ให้ปล่อยตัว แพทริก โอโกโรฟอร์ บทลงโทษของเขาถูกลดลงเหลือ 10 ปี และในปีถัดมาได้รับการลดลงเหลือ 2 ปี สุดท้าย เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2555
ลูซี ฟรีแมน นักวิจัยประเทศไนจีเรียของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
"มันเยี่ยมมากที่สุดท้ายแพทริก โอโกโรฟอร์ ก็ได้รับการปล่อยตัว แพทริกถูกปฏิเสธสิทธิในการได้รับการไต่สวนที่เป็นธรรม และเป็นเหยื่อของกระบวนยุติธรรมที่ผิดพลาด"
"โชคไม่ดีที่แพทริก โอโกโรฟอร์ เป็นเพียงหนึ่งในนักโทษอีกหลายคนในไนจีเรียที่ไม่ได้รับการไต่สวนที่ยุติธรรม การละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของไนจีเรียมีอย่างแพร่หลาย การจับกุมและคุมขังโดยพลการ การทรมานและการไต่สวนอย่างไม่เป็นธรรมเป็นสิ่งที่นักโทษหลายต่อหลายคนล้วนแต่ประสบ"
