พลังความสำเร็จจาก “จดหมายรัก(ษ์)สิทธิ 2557”

10 พลังความสำเร็จ “จดหมายรัก(ษ์)สิทธิ 2557”

(Write for Rights 2014)

          เข้าสู่ช่วงที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มจัดกิจกรรม ‘เขียนเปลี่ยนชีวิต’ หรือ ‘Write for Rights’ โดยผู้คนกว่าแสนคนจากหลากหลายประเทศมารวมตัวกัน เพื่อเขียนและส่งจดหมายให้กับเหยื่อรายบุคคลและชุมชนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งๆ ที่เราต่างไม่เคยพบเจอหน้ากัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ผู้คนแปลกหน้าจากนานาประเทศกลับร่วมกันส่งจดหมาย อีเมล เอสเอ็มเอส แฟกซ์ โพสข้อความทวีตเตอร์ หรือเฟสบุ๊ค ฯลฯ เพื่อเรียกร้องและแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลและผู้มีอำนาจที่กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

          ก่อนที่เราจะมารวมพลังในปีนี้ มาลองย้อนดูการเปลี่ยนแปลง 10 สิ่งที่เกิดจากพลังจากปลายปากกาของคนธรรมดาจากทั่วโลกร่วมพลังกันเขียนและการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง Write for Rights 2014

1. เสรีภาพในไนจีเรีย

          ผู้ว่าการเขตปกครองเดลตาในไนจีเรียได้ตอบสนองต่อแรงกดดันจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้สนับสนุน โดยให้อภัยโทษแก่ ‘โมเสส อากาตูบา’ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตขณะอายุ 16 ปี จากข้อหาขโมยโทรศัพท์สามเครื่อง ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือ

“แต่ก่อนผมรู้สึกว่าหมดความหวังแล้ว แต่เมื่อได้รับข้อความจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก ผมกลับมามีความหวังอีกครั้ง” - โมเสส อากาตูบา

2. สืบสวนการทรมานในฟิลิปปินส์

          ตำรวจฟิลิปปินส์ประกาศว่า จดหมายจำนวนมากที่ถูกส่งมาจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน (ซึ่งหมายถึงจดหมายจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล) ได้กระตุ้นให้มีการสืบสวนการทรมาน ‘เจไรมี่ คอร์’ ซึ่งถูกต่อย ช็อตไฟฟ้า และขู่เอาชีวิต

"ผมไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี จดหมายเหล่านี้ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น และยังเปลี่ยนรูปแบบคดีของผมไปเลย นอกจากนี้ยังทำให้ภรรยาของผมเข้มแข็งขึ้น ทำให้พวกเรารู้ว่า เราไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังในการต่อสู้นี้ แต่ยังมีอีกคนอีกจำนวนมากเรียกร้องความยุติธรรมให้พวกเรา” - เจไรมี่ คอร์

3. เปลี่ยนแปลงกฎหมายในนอร์เวย์

          รัฐบาลนอร์เวย์ประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนเพศทางกฎหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์เพื่อ ‘จอห์น เจเน็ต โซลสตัด เรโม’ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพศทางกฎหมายของเธอได้หากไม่ยอมเข้ารับการรักษาทางการแพทย์

“นี่คือทุกอย่างที่ฉันเคยหวังไว้ ผลลัพธ์มันคุ้มค่ากับการต่อสู้ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลายาวนาน แต่ฉันรู้สึกดีมากเมื่อในที่สุดฉันก็เห็นผลลัพธ์ของมัน” - จอห์น เจเน็ต โซลสตัด เรโม

4. การอนุญาตให้เยี่ยมนักโทษในจีน

          ในที่สุดลูกสาวของ ‘หลิว ผิง’ ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมแม่ของเธอ ซึ่งเป็นนักกิจกรรมที่ถูกจำคุกจากการต่อสู้กับการคอรัปชั่นในจีน โดยความสนใจระดับสากลได้มีส่วนช่วยให้เกิดพัฒนาการเชิงบวกครั้งนี้

5. ต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติในกรีซ

          ‘ปาราสเกวี โคโคนี’ หญิงชาวโรมที่ถูกโจมตีผ่านการเหยียดเชื้อชาติในตะวันตกของกรีซ ได้เข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของกรีซเพื่อยื่นจดหมายจากโครงการ Write for Rights โดยรัฐมนตรีกล่าวว่ากฎหมายต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ และเสนอมาตรการเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าว

6. ปรับปรุงสาธารณสุขในแอฟริกาใต้

          ขณะนี้สตรีและเด็กผู้หญิงในเขตมคอนโดสามารถเข้าถึงอนามัยขณะตั้งครรภ์มากขึ้น โดยมีคลินิกที่เพิ่มระยะเวลาการฝากครรภ์จากสองเป็นเจ็ดวันต่อสัปดาห์ ซึ่งลดจำนวนการรอตรวจอย่างมาก

7. เรียกร้องค่าชดเชยในอินเดีย

          รัฐบาลอินเดียกล่าวว่าจะแก้ไขข้อมูลการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บของผู้เรียกร้องค่าเสียหายจากกรณีการรั่วไหลของก๊าซพิษในปี 1984 ที่เมืองโภบาล ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญเพื่อรับประกันว่าบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นจริง

8. สร้างความเข้มแข็งในอุซเบกิสถาน

          ‘เออร์คิน มูซาเอฟ’ ถูกใส่ความว่าเป็นสายลับและถูกตัดสินจำคุก 20 ปีจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม ครอบครัวของเขากล่าวว่าจดหมายของแอมเนสตี้ทำให้เขาเข้มแข็ง และมอบกำลังใจและความศรัทธาให้เขา เออร์คินจึงฝากความขอบคุณถึงทุกคนที่ไม่เพิกเฉยต่อชะตากรรมของเขา

9. สนับสนุนเชลซี แมนนิงในสหรัฐอเมริกา

          กว่า 240,000 ความร่วมมือที่เรามอบแก่ ‘เชลซี แมนนิง’ ผู้ถูกตัดสินจำคุก 35 ปีจากข้อหาทำให้ข้อมูลที่เป็นความลับของรัฐบาลสหรัฐฯรั่วไหล

“ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนฉัน ทำให้ฉันยังมีความหวังอยู่ ฉันเข้มแข็งได้เพราะพวกคุณทุกคน” เธอกล่าวว่า 

ทนายของเธอกล่าวว่า “เชลซีซาบซึ้งกับแรงสนับสนุนจำนวนมากที่เธอได้รับจากแอมเนสตี้และผู้สนับสนุน และหวังว่าเธอสามารถขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันส่งจดหมายและโปสการ์ดร่วมหลายหมื่นมาให้เธอได้ เธอมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีคนจำนวนมากทั่วโลกสนับสนุนเธอและอยากให้เธอออกจากคุก”

10. สร้างความตระหนักในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

          เราได้ต่อสู้เพื่อ ‘โมฮัมเหม็ด อัล โรเค็น’ ผู้ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีจากการปราบปรามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักกิจกรรมสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมท้องถิ่นกล่าวว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรณรงค์เหล่านี้จะช่วยกดดันรัฐบาลมีพัฒนาการในดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน