Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

ฟิเลป การ์มานักกิจกรรมเพื่อเอกราชของปาปัวที่ถูกจำคุกเพราะโบกธงได้รับการปล่อยตัวในที่สุด

นักกิจกรรมเพื่อเอกราชของปาปัวที่ถูกจำคุกเพราะโบกธงได้รับการปล่อยตัวในที่สุด

                แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  ฟิเลป การ์มา (Filep Karma) นักกิจกรรมเพื่อเอกราชของปาปัวได้รับอิสรภาพแล้ว หลังถูกจำคุกอย่างไม่เป็นธรรมเป็นเวลากว่าทศวรรษเพียงเพราะโบกธงเรียกร้องเอกราชระหว่างพิธีทางการเมืองเมื่อปี 2547

                โจเซฟ เบเนดิกต์ (Josef Benedict ) ผู้อำนวยการแผนกรณรงค์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผย ฟิเลป การ์มาต้องติดคุกกว่าหนึ่งทศวรรษทั้ง ๆ ที่เขาไม่สมควรต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว  การกระทำดังกล่าวถือเป็นการดูหมิ่นความยุติธรรมอย่างแรง และเขาไม่สมควรต้องเข้ารับการไต่สวนคดีด้วยซ้ำ

                “ชาวอินโดนีเซียทุกคนควรมีสิทธิแสดงความเห็นอย่างเสรี และมีสิทธิชุมนุมอย่างเสรี แต่สิทธิดังกล่าวกลับถูกปฏิเสธในกรณีของฟิเลป การ์มา”

                แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลรับฟิเลป การ์มาเป็นนักโทษทางความคิดและรณรงค์ให้ปล่อยตัวเขาตั้งแต่ปี 2554 มีผู้สนับสนุนจากประเทศต่างๆ กว่า 80 ประเทศส่ง ข้อความกว่า 65,000 ครั้งเพื่อให้กำลังใจเขา โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเขียนจดหมายรัก(ษ์)สิทธิ หรือ “Writes for Rights” และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข

                ฟิเลป การ์มาปฏิเสธเสมอมาว่าไม่รับการลดหย่อนโทษจากรัฐบาล โดยบอกว่าเขายอมรับได้เพียงการปล่อยตัวอย่างไม่มีเงื่อนไข และอันที่จริงเขาไม่ควรต้องถูกจำคุกตั้งแต่แรก

                ทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเชื่อว่าเขาถูกจับกุมตัวโดยพลการเนื่องจากการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ โดยการโบกธงและเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง

                “เราหวังว่าการปล่อยตัวครั้งนี้จะเป็นก้าวย่างแรกที่นำไปสู่การปล่อยตัวนักโทษทางความคิดทุกคนที่ถูกควบคุมตัวเพียงเพราะการแสดงออกทางการเมืองอย่างสงบในจังหวัดปาปัวและพื้นที่อื่น ๆ ของอินโดนีเซีย” โจเซฟกล่าว

                แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลหวังว่าการปล่อยตัวฟิเลป การ์มาจะเป็นจุดเปลี่ยนทางยุทธการที่ทางการมักนำมาใช้เพื่อปราบปรามการต่อต้านอย่างสงบในภูมิภาคปาปัว นอกจากการปล่อยตัวนักโทษทางความคิดทุกคนแล้ว ทางการอินโดนีเซียต้องจัดให้มีกลไกเพื่อแก้ไขปัญหาวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดและแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอดีตซึ่งกระทำโดยกองกำลังด้านความมั่นคงในปาปัว

ข้อมูลพื้นฐาน

                ฟิเลป การ์มาเป็นหนึ่งในประชาชนประมาณ 200 คนที่เข้าร่วมพิธีอย่างสงบในเมืองอาเบปูระ จังหวัดปาปัวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2547 โดยเป็นการเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชของปาปัวเมื่อปี 2505 และมีการโบกธง Morning Star อันเป็นสัญลักษณ์การเรียกร้องเอกราชของปาปัวซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย ตำรวจได้เดินหน้าเข้าหาฝูงชนและใช้กระบองทุบตี ฟิเลป การ์มาถูกจับกุมตัวและตั้งข้อหา “ขบถ” ในเวลาต่อมาตามมาตรา 106 และ 110 ของประมวลกฎหมายอาญาอินโดนีเซีย เขาถูกศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 และได้รับโทษจำคุก 15 ปี

                ระหว่างไปเยือนจังหวัดปาปัวและปาปัวตะวันตกเมื่อเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดดำเนินการซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดเปลี่ยนจากนโยบายเผด็จการของรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งนี้โดยรวมถึงการปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองห้าคน ซึ่งถูกจำคุกเนื่องจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งมีการบังคับให้รับสารภาพโดยเป็นผลมาจากการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้ายอื่น ๆ ทั้งยังให้สัญญาว่าจะลดหย่อนโทษหรืออภัยโทษต่อนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังทั่วประเทศ

                เขายังประกาศว่าทางการจะยกเลิกระเบียบที่จำกัดสิทธิของผู้สื่อข่าวต่างชาติ โดยจะเปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าถึงจังหวัดปาปัว สามารถเดินทางได้อย่างเสรีและรายงานข่าวในภูมิภาคนี้ได้