Amnesty International Thailand © 2014 All Right Reserved
มีเรียม คุณแม่ลูกสองชาวซูดานที่เคยถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในข้อหาละทิ้งศาสนา ได้เดินทางถึงอิตาลีแล้วพร้อมครอบครัว โดยเดินทางไปกับเครื่องบินของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากมีเสียงเรียกร้องเป็นล้านๆ จากผู้คนทั่วโลกถึงรัฐบาลซูดานให้ ยกเลิกโทษประหารชีวิตและปล่อยตัวเธอ ไม่นานข้อเรียกร้องก็เป็นจริง แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวันเธอก็ถูกควบคุมตัวอีกครั้งที่สนามบิน ในขณะที่กำลังรอเดินทางไปสหรัฐอเมริกาพร้อมครอบครัว และถูกตั้งข้อหาปลอมแปลงเอกสารการเดินทาง อีกทั้งถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้เธอและครอบครัวต้องไปอาศัยอยู่ในสถานทูตอเมริกาประจำซูดานเป็นการชั่ว คราว จนกระทั่งมีภาพข่าวว่าเธอและครอบครัวเดินทางถึงอิตาลีแล้วเมื่อวานนี้
แม้การเดินทางไปอิตาลีในครั้งนี้จะสร้างความประหลาดใจให้ทนายความส่วนตัวของ เธอไม่น้อย พร้อมกับกล่าวว่าคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศยังไม่ได้ถูกยกเลิก
แต่อย่างไรก็ตาม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต้องขอขอบคุณทุกพลังที่ร่วมลงชื่อและเป็นกำลังให้มีเรียม จนกระทั่งวันนี้เธอและครอบครัวปลอดภัยในที่สุด!
////
รายงานข่าวจากสำนักข่าว independent [1] ระบุว่า มีเรียม หญิงสาวชาวซูดานที่ถูกศาลตัดสินโทษประหารชีวิตในข้อหาละทิ้งศาสนาและได้คลอดลูกระหว่างที่อยู่ในคุกออกจากประเทศซูดานแล้วโดยเดินทางไปกับเครื่องบินของรัฐบาลอิตาลี
จากภาพข่าวทางทีวีแสดงให้เห็นว่ามีเรียม อิบราฮิม และครอบครัวของเธอพร้อมด้วย รมช.ต่างประเทศอิตาลี ได้เดินทางถึงสนามบินแชมปิโน่ กรุงโรม หลังจากที่เรื่องราวของเธอได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก
การที่ครอบครัวของเธออยู่ๆ ไปปรากฏตัวที่อิตาลีถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ซึ่งทนายของมีเรียม โมเฮน มอสตาฟา เองก็ประหลาดใจไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ มีเรียมอยู่ที่สถานทูตอเมริกาประมาณหนึ่งเดือนเพราะมีความต้องการที่จะไปอเมริกาตามที่สามีของเธอเป็นพลเมืองอเมริกัน
ถึงแม้ว่าศาลจะได้เพิกถอนคำตัดสินโทษประหารชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่รัฐบาลซูดานได้สั่งห้ามไม่ให้มีเรียมและครอบครัวของเธออกนอกประเทศ โดยอ้างว่าเธอได้ปลอมแปลงเอกสารการเดินทาง
ทนายของมีเรียมซึ่งไม่ได้รับรู้ถึงแผนการในการนำมีเรียมและครอบครัวไปอิตาลีให้การว่าการห้ามออกนอกประเทศยังไม่ได้มีการยกเลิก
“ผมไม่มีส่วนรู้เห็นกับข่าวนี้เลย และจนขณะนี้คำสั่งห้ามออกนอกประเทศยังไม่ได้ถูกยกเลิก”
มีเรียมให้การว่าเธอเกิดและโตมาในฐานะคริสเตียนคนหนึ่งในครอบครัวของชาวเอธิโอเปียแต่ถูกลักพาตัวโดยครอบครัวชาวซูดานที่เป็นมุสลิม ซึ่งครอบครัวมุสลิมดังกล่าวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้พยายามยื่นฟ้องเพื่อให้ชีวิตแต่งงานของมีเรียมเป็นโมฆะเพื่อไม่ให้เธอออกนอกประเทศ แต่สุดท้ายคดีก็เป็นอันพับไป
นายกอิตาลี มันเตโอ เรนซี ได้พูดถึงกรณีของมีเรียมในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสที่อิตาลีเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ประธานสหภาพยุโรปครบวาระ 6 เดือน โดยกล่าวว่า “ถ้ายุโรปไม่มีท่าทีใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ คำว่า ‘ยุโรป’ ที่ใช้เรียกพวกเราคงเป็นคำที่ไม่มีเกียรติเอาเสียเลย”
อ่านข้อมูลย้อนหลัง https://www.amnesty.or.th/news/press/424 [2]
Links
[1] http://www.independent.co.uk/news/world/africa/apostasy-woman-meriam-ibrahim-and-family-arrive-in-italy-after-finally-leaving-sudan-9625058.html?linkId=9017530
[2] https://www.amnesty.or.th/news/press/424