Amnesty International Thailand © 2014 All Right Reserved
สถานการณ์การใช้โทษประหารชีวิตในปี 2556 ยืนยันว่ามีการใช้โทษดังกล่าวในประเทศส่วนน้อยเท่านั้น แต่นับเป็นปีที่มีความถดถอยเพราะมีการรื้อฟื้นโทษประหารชีวิตในอินโดนีเซีย คูเวต ไนจีเรีย และเวียดนาม และจำนวนผู้ถูกประหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในอิรักและอิหร่าน ซึ่งนับเป็นข้อเท็จจริงที่วิตกที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้บันทึกไว้ในรอบปีที่ผ่านมา ปี 2556 มีรายงานการประหารชีวิตใน 22 ประเทศ มากกว่าปี 2555 อยู่หนึ่งประเทศ
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่ยังมีคำตัดสินลงโทษประหาร แต่มีเพียงเก้ารัฐเท่านั้นที่มีการประหารชีวิตในปี 2556 ในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน แมรีแลนด์กลายเป็นรัฐที่ 18 ในสหรัฐอเมริกาที่ยกเลิกโทษประหาร
เบลารุสยังคงเป็นประเทศเดียวในยุโรปและเอเชียกลางที่มีคำตัดสินลงโทษประหาร แต่ไม่มีรายงานการประหารชีวิตในปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนโทษประหารในสิงคโปร์ การเพิ่มมาตรการป้องกันทางกฎหมายในจีน แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ประเทศที่สนับสนุนโทษประหารชีวิตมาตลอดก็ยังมีความก้าวหน้า การทบทวนกฎหมายและแก้ไขรัฐธรรมนูญในเบนิน คอโมโรส กานา และเซียร์ราลีโอน ทำให้เกิดโอกาสอย่างเป็นรูปธรรมที่จะนำไปสู่การยกเลิกโทษประหาร
รายงานฉบับนี้วิเคราะห์พัฒนาการสำคัญที่เกิดขึ้นจากการใช้โทษประหารชีวิตทั่วโลกในปี 2556 นำเสนอตัวเลขการตัดสินลงโทษประหารและการประหารชีวิตที่องค์กรเก็บรวบรวมได้ในปีนั้น
Death Sentences and Executions 2013 Download [1] |
รายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิต ในปี 2556 Download [2] |
เป็นปีที่น่าผิดหวังเนื่องจากบางประเทศได้รื้อฟื้นการประหารชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ปากีสถาน และแกมเบีย ซึ่งว่างเว้นการประหารชีวิตมาหลายปี ญี่ปุ่นเองก็รื้อฟื้นการประหารชีวิตในปี 2555 หลังจากงดเว้นมาถึง 20 เดือน การประหารชีวิตหลายครั้งที่เกิดขึ้นดูเหมือนเป็นมาตรการแบบประชานิยม และเป็นสัญญาณเตือนที่น่าหวาดกลัวว่า วิธีการเดียวที่จะหยุดโทษประหารได้ คือการยกเลิกโทษประหารในกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่ในปี 2555 ก็เกิดพัฒนาการเชิงบวกในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศที่เคยมีการประหารชีวิตอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็เว้นการประหารชีวิตในปี 2555 อย่างเช่น สิงคโปร์
โทษประหารยังคงเป็นมาตรการที่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มประเทศเล็ก ๆ ตัวเลขการประหารชีวิตที่ยืนยันได้คือ 682 ครั้ง ซึ่งแทบจะเท่ากับในปี 2554 (680) เราสามารถยืนยันว่ามีการประหารชีวิตเกิดขึ้นใน 21 ประเทศ เท่ากับปี 2554 ในขณะที่จำนวนประเทศที่มีการลงโทษประหารลดลงจาก 63 เป็น 58 ประเทศ
อีกครั้งหนึ่ง จีน, อิหร่าน, อิรัก, ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีการประหารชีวิตบุคคลมากสุดห้าประเทศของโลก
ประเทศที่ยังคงใช้โทษประหารหลายแห่งพยายามใช้แรงสนับสนุนจากประชาชนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้โทษประหาร โดยอ้างว่ามีผลในเชิงป้องปรามต่อการก่ออาชญากรรม ทำให้สามารถใช้โทษประหารได้ต่อไป แต่อันที่จริงโทษประหารเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ในปี 2555 มีงานศึกษาชิ้นใหม่อย่างรอบด้านซึ่งปฏิเสธข้ออ้างที่ว่า โทษประหารมีผลในเชิงป้องปรามอย่างชัดเจน
Death Sentences and Executions 2012 Download [3] |
รายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิต ในปี 2555 Download [4] |
Links
[1] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/report2013_en.pdf
[2] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/report2013_th.pdf
[3] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/report2012_en.pdf
[4] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/report2012_th.pdf