ครม. อนุมัติให้สัตยาบันอนุสัญญาอุ้มหาย พร้อมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย

ครม. อนุมัติให้สัตยาบันอนุสัญญาอุ้มหาย-เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย

ครม. ไทยอนุมัติการให้สัตยาบันต่อ "อนุสัญญาอุ้มหาย" และมีมติเห็นชอบ "ร่าง พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย" และส่งให้ สนช. พิจารณาแล้ว โดยขั้นต่อไปคือต้องจับตามองว่าเนื้อหาในกฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสากลมากน้อยแค่ไหน

          พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีโดยการให้สัตยาบันต่อ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ [1] รวมทั้งเห็นชอบต่อ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอด้วย ซึ่งจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเป็นขั้นตอนต่อไป
          มติเห็นชอบดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไทยส่งตัวแทนเข้าร่วมกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (UPR) [2] เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ครอบครัวของผู้ที่คาดว่าถูกบังคับให้สูญหายหลายคนทั่วประเทศยังคงทวงถามคำตอบและความยุติธรรมจากภาครัฐ เช่น ทนายสมชาย นีละไพจิตร [3] (หายตัวไป 12 ปี) บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ [4] (หายตัวไป 2 ปี) หะยีสุหลง โต๊ะมีนา [5] (หายตัวไป 63 ปี) เด่น คำแหล้ [6] (หายตัวไป 5 สัปดาห์)

          ทั้งนี้ หากประเทศไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาและออก พ.ร.บ. ดังกล่าวจริง จะส่งผลให้การทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐและการบังคับบุคคลให้สูญสาย (อุ้มหาย) มีความผิดเฉพาะทางอาญา รวมทั้งจะส่งผลให้มีมาตรการป้องกันปราบปรามการทรมานและการอุ้มหาย ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุ ตลอดจนเยียวยาผู้เสียหายและครอบครัวอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วย

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนการออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการอุ้มหายมาโดยตลอด โดยเน้นย้ำกับหน่วยงานภาครัฐเสมอว่ากฎหมายดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามอนุสัญญาและมาตรฐานสากลต่างๆ

          ร่วมผลักดันให้ สนช. ผ่าน ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายที่ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนทวงถามความยุติธรรมต่อการหายตัวไปของทนายสมชายและผู้ที่คาดว่าถูกอุ้มหายคนอื่นๆ กับเราได้ที่ > change.org/12YearsSomchai [7]