แอมเนสตี้เรียกร้องสหรัฐฯ ประกันความปลอดภัยประชาชน หลังเหตุกราดยิงไนต์คลับ LGBT

แอมเนสตี้เรียกร้องสหรัฐฯ ประกันความปลอดภัยประชาชน
หลังเหตุกราดยิงไนต์คลับ LGBT ที่ออร์แลนโด

หลังเหตุกราดยิงไนต์คลับชาว LGBT ที่เมืองออร์แลนโด แอมเนสตี้ สหรัฐอเมริกาเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐฯ ให้รับประกันความปลอดภัยประชาชนตามพันธกรณีระหว่างประเทศ

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา แถลงหลังเหตุกราดยิง [1]ในไนต์คลับสำหรับชาว LGBT ที่เมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 53 คน และกลายเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ สมัยใหม่ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปกป้องคุ้มครองประชาชนจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับปืน

          จามิรา เบอร์ลีย์ นักรณรงค์อาวุโส แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “เหตุกราดยิงที่ออร์แลนโดเมื่อคืนนี้แสดงให้เห็นถึงการเหยียดหยามชีวิตมนุษย์อย่างร้ายแรงที่สุด เราขอส่งแรงใจไปยังเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าวและชาวออร์แลนโด แต่แรงใจจำเป็นต้องถูกหนุนด้วยการลงมือทำจริงเพื่อปกป้องผู้คนจากเหตุรุนแรงเช่นนี้”

          แอมเนสตี้สหรัฐอเมริการะบุด้วยว่าในฐานะที่เป็นประเทศภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICCPR) [2] และ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (ICERD) [3] รัฐบาลสหรัฐฯ มีพันธกรณีที่จะต้องปกป้องประชาชนจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับปืน

          “รัฐบาลสหรัฐฯ ควรปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและระบุให้เหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับปืนเป็นวิกฤตทางสิทธิมนุษยชน มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปฏิรูปแนวทางของรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น และกฎหมายท้องถิ่นในปัจจุบัน ให้มีการรับประกันความปลอดภัยและความมั่นคงของคนทุกคน ไม่ควรมีใครตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะเดินบนถนน เดินทางไปโรงเรียน หรือกำลังเต้นอยู่ในไนต์คลับ”

ที่มา: Attack in Orlando Shows Utter Contempt for Human Life [1]