แอมเนสตี้เรียกร้องไทยถอนฟ้อง 3 นักสิทธิมนุษยชนที่เผยแพร่รายงานการทรมานในภาคใต้

[Please find attached the Urgent Action and a sample letter in English]

แอมเนสตี้เรียกร้องไทยถอนฟ้อง 3 นักสิทธิมนุษยชน
ที่เผยแพร่รายงานการทรมานในภาคใต้

แอมเนสตี้จี้ไทยยกเลิกข้อกล่าวหา 3 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชื่อดังที่เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดชายแดนใต้ ย้ำควรหาผู้ก่อเหตุทรมานมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แทนที่จะมาเอาผิดผู้เผยแพร่รายงาน

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกข้อกล่าวหาต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนสามคนฐานหมิ่นประมาททางอาญาและความผิดทางคอมพิวเตอร์ สืบเนื่องจากการเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำและเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ [1]

          ออเดรย์ โกห์ราน (Audrey Gaughran) ผู้อำนวยการงานรณรงค์ประเด็นสากล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่าทางการไทยควรหาทางสอบสวนตามรายงานดังกล่าวเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แทนที่จะใช้กฎหมายอันกำกวมเพื่อโจมตีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเหล่านี้

          นักสิทธิมนุษยชนทั้งสามคนเป็นที่รู้จักดีในประเทศไทย ได้แก่ นายสมชาย หอมลออ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และนางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ โดยทั้งหมดต่างได้รับหมายเรียกให้ไปรายงานตัวที่ สภ.เมืองปัตตานี ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ข้อหาหมิ่นประมาททางอาญาและการละเมิดพระราชบัญญัติการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์

          การฟ้องร้องครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ “มูลนิธิผสานวัฒนธรรม” [2] และ “กลุ่มด้วยใจ” [3] ซึ่งเป็นหน่วยงานของนักสิทธิมนุษยชนทั้งสามคนเผยแพร่รายงานที่กล่าวหาว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) หน่วยงานทางทหารซึ่งดำเนินการในจังหวัดชายแดนใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการทรมานโดยเจ้าหน้ารัฐในพื้นที่

          นอกจากนี้ นับตั้งแต่การตีพิมพ์รายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นมา นายสมชาย นางสาวพรเพ็ญ และนางสาวอัญชนา ยังถูกทางการคุกคาม [4] กดดันให้เปิดเผยแหล่งข้อมูล หรือกดดันให้เปิดเผยรายละเอียดส่วนบุคคลของเหยื่อที่กล่าวหาว่าถูกทรมานด้วย

          ออเดรย์ โกห์ราน กล่าวปิดท้ายว่า “สามผู้ถูกกล่าวหาล้วนเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างมาก ข้อกล่าวหาต่อพวกเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทางการไทยเร่งปราบปรามสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร การพยายามปิดปากพวกเขาและผู้ที่เรียกร้องการเยียวยาถือเป็นกระทำที่น่าอับอาย และควรกระตุ้นให้มีการเพิ่มแรงกดดันเพื่อตรวจสอบหน่วยงานความมั่นคงมากขึ้น” 

ที่มา: Thailand: Withdraw charges against human rights defenders [5]