Amnesty International Thailand © 2014 All Right Reserved
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหราชอาณาจักร ออกมาแสดงท่าทีหลังผลการลงประชามติ [1]สมาชิกสภาพสหภาพยุโรปของประชาชนทั่วสหราชอาณาจักรหรือ “Brexit” ออกมาปรากฎว่าผู้ลงประชามติส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้สหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอีกต่อไป โดย เคต อัลเลน ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหราชอาณาจักร ระบุว่า [2]รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องสิทธิของประชาชนอย่างจริงจัง เปิดเผย และเป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหส่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือไม่ก็ตาม
เคตกล่าวว่า “ไม่ว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือไม่ สหราชอาณาจักรก็ยังคงต้องยึดถือมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศต่อไป ทั้งขนบธรรมเนียมต่างๆ ที่ยังควรปฏิบัติตามและกลไกต่างๆ ที่ยังควรให้ความเคารพ”
“แม้ว่าจะกำลังเจรจาเพื่อออกจากสหภาพยุโรป รัฐบาลสหราชอาณาจักรก็ควรมองหาแนวทางที่จะรักษาการปกป้องสิทธิอันเข้มแข็งซึ่งเป็นไปตามกฎหมายสหภาพยุโรปไว้ต่อไป โดยเฉพาะในประเด็นการไม่เลือกปฏิบัติ สิทธิความเป็นส่วนตัว และสิทธิแรงงาน” เคตกล่าวเสริม
ผู้อำนวยการแอมเนสตี้สหราชอาณาจักรระบุว่าที่ผ่านมา การถกเถียงเกี่ยวกับ Brexit ต้องแปดเปื้อนไปด้วยแนวคิดเกลียดกลัวชาวต่างชาติ (xenophobic) ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจและไม่ควรมีพื้นที่ยืนในโลกการเมือง พร้อมกล่าวปิดท้ายว่า “ความท้าทายในตอนนี้คือการให้ความสำคัญกับสิ่งที่หลอมรวมพวกเรามากกว่าสิ่งที่แบ่งแยกพวกเรา และสิทธิมนุษยชนสากลถือเป็นจุดศูนย์กลาง”
Links
[1] http://www.thairath.co.th/clip/55199
[2] https://www.amnesty.org.uk/blogs/press-release-me-let-me-go/no-time-curse-darkness-we-need-get-work-eu-referendum-uk