แอมเนสตี้ย้ำจุดยืนร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมฯ ต้องได้มาตรฐานสิทธิมนุษยชน

แอมเนสตี้ย้ำจุดยืนร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมฯ ต้องได้มาตรฐานสิทธิมนุษยชน

แอมเนสตี้ย้ำจุดยืนข้อห่วงใยต่อ "ร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" หวังให้เป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมชมคณะกรรมาธิการที่ปรับแก้มาตรา 14(1)

          นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้รับเชิญให้ร่วมเวทีสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....จัดโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วยหลากหลายวิทยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          นางปิยนุชได้แสดงข้อห่วงใยของแอมเนสตี้ประเทศไทยต่อร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ล่าสุดที่อาจขัดต่อบทบัญญัติของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองหรือ ICCPR [1] ที่ไทยได้ให้สัตยาบันเอาไว้ โดยเฉพาะข้อ 17 เรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว และข้อ 19 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก

          สำหรับประเด็นที่แอมเนสตี้ประเทศไทยยังคงเป็นห่วงในร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้แก่ มาตรา 14(2) ที่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดนิยามที่ไม่รัดกุม เช่น คำว่า "ข้อมูลเท็จ" และ "การบริการสาธารณะ" รวมไปถึง 18, 19 และ 20 ที่เงื่อนไขการเข้าถึง ระงับ หรือลบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยที่ไม่เข้มงวดเท่ากับกฎหมายอื่นๆ ที่บังคับใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน

          ผู้ที่สนใจสามารถอ่านเอกสารจุดยืนของแอมเนสตี้ประเทศไทยต่อร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2559 ได้จากตารางต่อไปนี้ และสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่  [2]

          ทั้งนี้ แอมเนสตี้พบว่ามีการปรับแก้มาตรา 14(1) ให้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยนางปิยนุชได้กล่าวชื่นชมคณะกรรมาธิการร่างฯ ที่มองเห็นความสำคัญของการคุ้มครองความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์โดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน