แอมเนสตี้เรียกร้องไทยคุ้มครองนักปกป้องสิทธิ ก่อนการตัดสินคดีโรงงานไทยฟ้อง “อานดี้ ฮอลล์”

แอมเนสตี้เรียกร้องไทยคุ้มครองนักปกป้องสิทธิ
​ก่อนการตัดสินคดีโรงงานไทยฟ้อง “อานดี้ ฮอลล์”

แอมเนสตี้เรียกร้องไทยคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ก่อนหน้าการตัดสินคดีโรงงานไทยฟ้อง "อานดี้ ฮอลล์" นักวิจัยและนักปกป้องสิทธิแรงงานข้ามชาติ

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ [1]แสดงความกังวลอย่างมากต่อการใช้ข้อหาหมิ่นประมาทและข้อหาอื่นๆ โดยภาครัฐและเอกชนเพื่อคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ในโอกาสการตัดสินคดี “อานดี้ ฮอลล์” [2] นักวิจัยและนักปกป้องสิทธิแรงงานข้ามชาติในไทยที่ถูกโรงงานเอกชนไทยฟ้อง จากการจัดทำและเผยแพร่รายงานที่ระบุว่าโรงงานดังกล่าวละเมิดสิทธิมนุษยชนแรงงานข้ามชาติ

          โจทก์ที่ฟ้องร้องอานดี้ ฮอลล์ คือบริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด [3] โรงงานแปรรูปผลไม้ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่อานดี้ ฮออล์มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานเมื่อเดือนมกราคม 2556 ของกลุ่มฟินน์วอชต์ (Finnwatch) เรื่อง “สินค้าถูกมีราคาสูง” (Cheap Has a High Price) [4] บรรยายถึงการละเมิดสิทธิแรงงานหลายประการโรงงานสามแห่งในไทย ตั้งแต่สภาพการทำงานที่เสี่ยงอันตราย ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด บังคับให้ทำงานล่วงเวลา ยึดหนังสือเดินทาง การเลือกปฏิบัติจากเหตุผลด้านชาติพันธุ์ และอื่นๆ อีกมากมาย

          อานดี้ ฮอลล์ถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาททางอาญาตามมาตรา 328 ของประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14(1) ของพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยศาลมีกำนดอ่านคำตัดสินในวันที่ 20 กันยายน 2559 หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาอาจติดคุกสูงสุดถึง 7 ปีและอาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก

          การใช้ข้อหาหมิ่นประมาททางอาญาเพื่อคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นการละเมิดพันธกรณีของไทยที่จะคุ้มครองและเคารพเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะข้อ 19 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) [5] ซึ่งไทยเป็นรัฐภาคี เนื่องจากกฎหมายหมิ่นประมาทควรฟ้องได้แค่ทางแพ่งเท่านั้น และศาลต้องรับฟังข้อต่อสู้ของจำเลยในแง่ของความเป็นจริงและประโยชน์ต่อสาธารณะด้วย

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกระตุ้นรัฐบาลไทยให้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้บุคคลต่างๆ สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสงบ และทำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยไม่ต้องหวาดกลัวกับการคุกคาม ข่มขู่ หรือตอบโต้ ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาโดยตัดความผิดทางอาญาของการหมิ่นประมาทออกไปด้วย