Amnesty International Thailand © 2014 All Right Reserved
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอีก 4 องค์กร ออกแถลงการณ์ร่วม [1]เน้นย้ำข้อกังวลต่อการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือ “พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์” ของไทย ซึ่งกำลังถูกพิจารณาโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อยู่ในขณะนี้
ข้อกังวลหลักต่อ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยมาตรา 14 (1) ที่เนื้อหาแก้ไขเพิ่มเติมในปัจจุบันยังคงเปิดโอกาสให้สามารถถูกนำมาใช้ร่วมกับกฎหมายหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาได้ ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายซ้ำซ้อน เพิ่มภาระให้จำเลยและศาล ตลอดจนขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นรัฐภาคี
นอกจากนี้ ยังมีมาตรา 14(2) ที่กำหนดนิยามความเสียหายจากข้อมูลเท็จทางคอมพิวเตอร์ไว้อย่างกว้างขวาง มาตรา 15 ที่กำหนดโทษสำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ไม่เซ็นเซอร์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม มาตรา 18 และ 19 ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวประชาชนได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล ไปจนถึงมาตรา 20 ที่กำหมดให้ทางการปกปิดหรือถอดเนื้อหาที่กระทบความมั่นคงของประเทศได้ ซึ่งทั้งหมดมีแนวโน้มที่จะขัดต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออก
ตามข้อมูลของสำนักงานศาลยุติธรรมซึ่งมอบให้กับฟอร์ติฟายไรท์ [2]ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2559 มีข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ที่เข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลแล้ว 399 ข้อกล่าวหา เปรียบเทียบปี 2558 ที่มี 321 ข้อกล่าวหา ปี 2557 71 ข้อกล่าวหา ปี 2556 46 ข้อกล่าวหา ปี 2555 13 ข้อกล่าวหา และเพียงหกข้อกล่าวหาในปี 2554
ขณะที่ข้อมูลของ iLaw [3] ระบุว่าระหว่างเดือนกรกฎาคม 2550 ถึงธันวาคม 2557 พบว่าเพียง 22% ของการฟ้องคดีอาญาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยตรง เช่น การเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนอีก 78% ที่เหลือล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกกล่าวหาว่ามีลักษณะดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาททั้งสิ้น
Links
[1] https://www.amnesty.or.th/sites/default/files/attachments/psj_-_cca_oct_tha_0.pdf
[2] http://www.fortifyrights.org/
[3] https://ilaw.or.th/
[4] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/attachments/psj_-_cca_oct_tha_0.pdf
[5] http://old.amnesty.or.th/sites/default/files/attachments/psj_-_cca_oct_eng_1.pdf