Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

แอมเนสตี้เรียกร้องผู้นำทหารต้องยุติการปราบปรามที่เพิ่มขึ้นหลังหกเดือนรัฐประหาร

หมวดหมู่ : ข่าวสิทธิมนุษยชน
© 2014 Getty Images

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 หลังจากที่กองทัพได้ยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหารมากว่าหกเดือน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ทางการยกเลิกกฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าว และให้ยุติการปราบปรามที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศที่อยู่ใต้การปกครองด้วยกฎอัยการศึก

********

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

แถลงการณ์  (คำแปล)

21 พฤศจิกายน 2557

ประเทศไทย: ผู้นำทหารต้องยุติการปราบปรามที่เพิ่มขึ้นหลังหกเดือนรัฐประหาร

            ทางการไทยแถลงว่าไม่มีแผนการยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในเร็ววันนี้ หลังจากที่กองทัพได้ยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหารมากว่าหกเดือน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอเรียกร้องให้ทางการยกเลิกกฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าว และให้ยุติการปราบปรามที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศที่อยู่ใต้การปกครองด้วยกฎอัยการศึก

            ทางองค์การฯ กังวลว่า การปฏิเสธสิทธิมนุษยชนได้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการไทยยังคงใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกเพื่อจับกุมคุมขังบุคคลหลายร้อยคนโดยพลการ และมีการนำตัวขึ้นไต่สวนในศาลทหารอย่างไม่เป็นธรรมที่ซึ่งไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดี รวมทั้งยังมีข้อกล่าวหาการทรมานและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกหลายประการ

            ผลจากมาตรการจำกัดสิทธิโดยสิ้นเชิงตามกฎอัยการศึก ซึ่งเดิมมีการประกาศว่าจะใช้เป็นมาตรการชั่วคราว เป็นเหตุให้มีหลายร้อยคนอาจได้รับโทษรวมทั้งการจำคุก โดยเป็นผลมาจากการใช้สิทธิมนุษยชนของตนอย่างสงบ ทั้งการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม

            ทางการใช้กฎหมายที่มีอยู่เพื่อลงโทษบุคคลที่แสดงออกอย่างสงบ และยังปฏิเสธไม่ให้สิทธิประกันตัวตามกฎหมายต่อบุคคลจำนวนมากขึ้นที่ถูกควบคุมตัวตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย หรือมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีสำหรับการกระทำที่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

            แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอกระตุ้นให้ทางการแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา โดยต้องอนุญาตให้ประชาชนแสดงความเห็นและประท้วงได้อย่างสงบ ฟื้นฟูหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญ ยกเลิกกฎหมายที่กดขี่ปราบปรามทั้งปวง และให้ยกเลิกบทลงโทษที่ไร้เหตุผลต่อผู้ประท้วงอย่างสงบ โดยรัฐอ้างว่าต้องลงโทษเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ

            ทางองค์การฯ ยังเรียกร้องให้ทางการปฏิบัติตามพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศของไทย โดยให้ยุติการนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหาร และให้คืนความยุติธรรมและให้เยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งการควบคุมตัวโดยพลการ การซ้อมทรมาน และการบังคับบุคคลให้สูญหาย 

DOCUMENT - THAILAND: MILITARY LEADERS MUST END GROWING REPRESSION SIX MONTHS AFTER COUP

ป้ายคำ: 

  • ผู้นำทหาร
  • แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
  • รัฐประหาร
  • หกเดือนหลังรัฐประหาร
  • ศาลทหาร
  • การละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • กฎอัยการศึก
  • ม.112
  • กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ