Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

ปักหมุดคนหาย กิจกรรมรำลึก “บิลลี่” 1 ปีที่หายไป

หมวดหมู่ : ข่าวสิทธิมนุษยชน

ปักหมุดคนหาย กิจกรรมรำลึก “บิลลี่” 1 ปีที่หายไป

สมาชิกและนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยร่วมกิจกรรมและมอบข้อความให้กำลังใจครอบครัวบิลลี่ ในงานรณรงค์เพื่อรำลึก 1 ปี พอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) และ 11 ปี ทนายสมชายถูกบังคับสูญหาย "ที่นี่แก่งกระจาน...ที่นี่มีคนหาย" ณ บริเวณหน้าด่านมะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 นางอังคนา นีละไพจิตร มูลนิธิเพื่อยุติธรรมและสันติภาพ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา กลุ่มเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม สมาชิกและนักกิจกรรมแอมเนสตี้ฯ พร้อมด้วยชาวบ้านกะเหรี่ยง กว่า 200 คน ร่วมกันจัดกิจกรรมรำลึก 1 ปี การหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่หายตัวไปในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 

นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่าเป็นการรำลึกถึงนายบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญที่สูญหายไปครบ 1 ปี และเป็นปีเดียวกับที่นายสมชาย นีละไพจิตรได้สูญหายไปเป็นเวลา 11 ปี รวมถึง “ผู้สูญหายนิรนาม” อีกมากมายในประเทศไทย จึงเป็นเสมือนเป็นการประกาศต่อสาธารณะว่า ประชาชนคนไทยยังคงมีเจตจำนงมุ่งมั่นร่วมกันในความพยายามเพื่อป้องกันและยุติการบังคับสูญหาย ยุติวัฒนธรรมการลอยนวลของผู้กระทำผิดในประเทศไทย

ทุกคนมาที่นี่เพื่อร่วมกันปักหมุดว่า ที่นี่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีผู้บริสุทธิ์ต้องถูกบังคับให้สูญหาย เราทุกคนในฐานะพลเมืองขอร่วมเรียกร้องต่อรัฐบาล และทุกหน่วยงาน ที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม ต้องยุติการปกป้องผู้กระทำผิด ต้องสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่จนกว่าจะพบตัว “บิลลี่” และผู้สูญหายในประเทศไทยทุกคน และต้องมีการเยียวยาเหยื่อและครอบครัวอย่างเหมาะสม และไม่เลือกปฏิบัติ

     "ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐบางคน อาจคิดว่า “ปัญหาจะหายไป ถ้าคนบางคนถูกทำให้หายไป” แต่ความเป็นจริงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ความคิดดังกล่าวไม่สามารถยุติเจตนาที่มุ่งมั่นในการปกป้องรักษาอุดมการณ์ของผู้รักความเป็นธรรมได้ การสูญหายของบิลลี่ หรือสมชายจึงย้ำเตือนต่อผู้ปกครองที่อธรรมว่าการฆ่าและทำลายศพ จะไม่สามารถปกปิดการกระทำผิดของพวกเขาได้อีกต่อไป"

ด้านนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่เขียนข้อความบรรยายถึงความในใจหลัง 1 ปีเต็มกับการรอคอยสามีกลับบ้าน พร้อมทั้งบอกเล่าถึงความยากลำบากที่ต้องประสบหลังที่สามีที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัวหายตัวไป ทั้งเรื่องอาหารการกินและภาระอันหนักอึ้งที่ต้องเลี้ยงลูก 5 คนเพียงลำพัง แม้ผ่านมาหนึ่งปีเต็มแต่ครอบครัวระบุว่าคดีไม่มีความคืบหน้า และไม่มีเบาะแสเพิ่มเติมที่จะพิสูจน์ได้ว่าบิลลี่หายตัวไปได้อย่างไร

     "1 ปีเต็มกับการรอคอย แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้ได้เลยว่าบิลลี่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อย่างไร หรืออะไรเกิดขึ้นกับบิลลี่กันแน่ จะมีแต่ข่าวการพูดของชาวบ้านหลายๆ อย่างว่า ตัวบิลลี่ไม่อยู่แล้ว หรือจากการปล่อยข่าวของอุทยานว่าบิลลี่ไปอยู่ประเทศพม่า มีเมียพม่าไปนานแล้ว ซึ่งดิฉันไม่เชื่อว่าบิลลี่ทำตัวเช่นนั้น ดิฉันเชื่อว่าบิลลี่ยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่อุทยาน ถ้าไม่เช่นนั้น บิลลี่กลับบ้านหาครอบครัวนานแล้ว เพราะครอบครัวเป็นดวงใจสำคัญของเขา บิลลี่ไม่สามารถละทิ้งได้แน่นอน ขนาดมีเวลาว่างแค่ครึ่งวันยังกลับมาหาครอบครัวเลย และทุกวันปีใหม่ของทุกปี บิลลี่จะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม บิลลี่ต้องกลับมาสวัสดีปีใหม่ครอบครัวให้ได้”

ทั้งนี้มีผู้พบเห็นบิลลี่เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ระหว่างที่เขาถูกอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและเจ้าหน้าที่อุทยานสี่คนควบคุมตัวไว้ ในขณะที่อดีตหัวหน้าอุทยานยืนยันว่าเจ้าหน้าที่อุทยานได้ควบคุมตัวเขาฐานครอบครองน้ำผึ้งป่าและปล่อยตัวบิลลี่ในวันเดียวกัน แต่กลับไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุม ควบคุมตัว หรือปล่อยตัวแต่อย่างใด ตามความเป็นจริงมีรายงานถึงพยานหลักฐานที่ขัดแย้งกับข้ออ้างที่ว่ามีการปล่อยตัวบิลลี่แล้ว แต่ไม่มีใครพบเห็นบิลลี่อีกเลยหลังจากนั้น

ด้านนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้บอกเล่าเรื่องราวของบิลลี่ให้กับคนกรุงเทพทั้งในบริเวณถนนข้าวสารและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้รับรู้และเชิญชวนให้เขียนข้อความส่งกำลังให้ภรรยาและลูกๆ ทั้งห้าของบิลลี่ เพื่อนำมามอบให้ในวันจัดกิจกรรมปักหมุดคนหายด้วย

นางสาวนวพร ศุภวิทย์กุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาชิกและนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์แนลจากทั่วโลกต่างให้ความสนใจติดตามกรณีการหายตัวของนายพอละจี รักจงเจริญ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา สมาชิกและกิจกรรมในประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เนปาล มองโกลเลีย มาเลเซีย และฮ่องกง รวมทั้งประเทศไทย ได้ร่วมกันรณรงค์อย่างเข้มข้น และรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้มีการติดตามความคืบหน้าในกรณีนี้ โดยมีผู้สนับสนุนเบื้องต้นในการเรียกร้องนี้จำนวน 9,674 รายชื่อ ซึ่งรายชื่อและข้อเรียกร้องทั้งหมดได้ถูกส่งถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว

     “ในโอกาสครบรอบหนึ่งปีที่บิลลี่ถูกบังคับให้สูญหาย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการอย่างเฉียบขาดเพื่อดำเนินคดีกรณีบิลลี่และใช้มาตรการอย่างรอบด้านเพื่อยุติวงจรการลอยนวลพ้นผิดในประเทศไทย เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงในกรณีนี้และอื่น ๆ ทั้งนี้ ในลำดับแรกต้องสร้างหลักประกันว่าเจ้าหน้าที่สอบสวนจะดำเนินการค้นหาบิลลี่อย่างครอบคลุม เพื่อให้ทราบถึงชะตากรรมและแหล่งที่อยู่ของเขา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องต้องได้รับข้อมูลและความร่วมมือที่จำเป็นจากหน่วยงานทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาคและส่วนกลาง รวมทั้งจัดการคุ้มครองแก่พยานและครอบครัวของบิลลี่ด้วย”

นอกจากนั้นแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังเรียกร้องให้ทางการไทยคุ้มครองสิทธิของนักเคลื่อนไหวในการจัดกิจกรรมอย่างสงบเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองสิทธิชุมชนของตนเอง โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะถูกตอบโต้ ที่ผ่านมานักกิจกรรมเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในไทยถูกคุกคามและทำร้ายมาเป็นเวลาหลายปี โดยในระหว่างปี 2557-2558 มีผู้ถูกสังหารไปแล้วสี่คน

สำหรับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยได้ร่วมกันเรียกร้องทางการไทยจริงใจในการเร่งจัดทำร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย หลังจากไทยร่วมลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ดังนั้นกรณีบิลลี่ถูกบังคับให้สูญหายจึงเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีการพัฒนามาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องผู้เสียหายและครอบครัวของเขาเหล่านั้นอย่างทันท่วงที รวมทั้งต้องสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีผู้ใดต้องตกเป็นเหยื่อการบังคับให้สูญหายอีก

ป้ายคำ: 

  • บิลลี่
  • พอละจี รักจงเจริญ
  • คนหาย
  • ปักหมุด
  • อังคณา นีละไพจิตร
  • ภรรยาบิลลี่
  • แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
  • นักกิจกรรม