Error message

  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).
  • Deprecated function: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in _filter_pubdlcnt() (line 50 of /home/amnestyo/domains/amnesty.or.th/public_html/old/sites/all/modules/contrib/pubdlcnt/pubdlcnt.module).

แอมเนสตี้เรียกร้องสหรัฐฯ ควรระงับการส่งน้ำมันและอาวุธให้กับอิสราเอล

หมวดหมู่ : ข่าวสิทธิมนุษยชน
© EPA

แอมเนสตี้เรียกร้องสหรัฐฯ ควรระงับการส่งน้ำมันและอาวุธให้กับอิสราเอล

หลังจากมีหลักฐานว่าทำให้สถานการณ์ในกาซ่าเลวร้ายลง

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหรัฐอเมริการะงับการส่งน้ำมันให้อิสราเอลโดยทันที และยังได้เรียกร้องให้ระงับการส่งอาวุธให้กับกลุ่มผู้ขัดแย้งทุกฝ่าย ซึ่งหลักฐานที่เพิ่มขึ้นจาก 4 อาทิตย์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าอาชญากรรมสงครามที่เกิดจากความขัดแย้งในครั้งนี้ทุกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้อง

รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงขายน้ำมันให้อิสราเอลจำนวนหลายพันตัน ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ทางการทหาร ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินรบ หรือยานพาหนะทางทหารอื่นๆ ถึงแม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของพลเรือนจะเพิ่มสูงขึ้นจากการโจมตีโดยทหารอิสราเอลก็ตาม  โดยครั้งล่าสุดสหรัฐฯ ส่งน้ำมันให้กับอิสราเอลเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่มีการสู้รบเกิดขึ้น ทั้งนี้ในระหว่างปี 2556-2557 สหรัฐฯได้ส่งน้ำมันไปยังอิสราเอลแล้วจำนวน 9 ล็อตโดยล็อตล่าสุดจะส่งถึงอิสราเอลในวันที่ 12 สิงหาคมนี้

ไบรอัน วู๊ด หัวหน้าประจำโครงการรณรงค์ควบคุมอาวุธและสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯ ยังคงขายน้ำมันให้อิสราเอลเพื่อนำไปใช้ทางการทหารเป็นการทำให้อัตราการเสียชีวิตของพลเรือนเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งผู้ที่บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ถ้าสหรัฐฯ ยังไม่หยุดส่งน้ำมัน มือที่เปื้อนเลือดอยู่แล้วคงต้องเปื้อนเลือดเพิ่มขึ้นอีกมาก

“รัฐบาลสหรัฐฯต้องระงับการส่งน้ำมันและอาวุธให้กับอิสราเอลทันที และต้องสนับสนุนการสอบสวนจากนานาชาติในประเด็นเรื่องความโหดร้ายที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย”  

จากข้อมูลที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับจากองค์กรด้านการค้าอาวุธระหว่างประเทศทั้งจาก ทรานส์อามส์ และ ไอพืไอเอส หรือ  International Peace Information Service ระบุว่า วันที่ 23 กรกฎาคม 2557 เรือบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯชื่อ “Overseas Mykonos” ออกจากท่าที่เมืองคอร์ปัสคริสตี รัฐเทกซัส โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองแอชเคลลอนซึ่งเป็นเมืองที่มีสถานีขนส่งน้ำมัน โดยเมืองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซ่า

กองกำลังป้องกันของอิสราเอลโจมตีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมากหลังจากที่มีการสู้รบเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นมา บ้านเรือนและอาคารของพลเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหาย รวมถึงโรงพยาบาล และอาคารสำคัญอื่นๆ โดยขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,800 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน โดยมีเด็กรวมอยู่ด้วยถึง 440 คน นอกจากนี้จำนวนผู้เสียชีวิตยังรวมไปถึงทหารอิสราเอลอย่างน้อย 64 นาย พลเรือนอิสราเอล 2 คน และ คนไทยอีก 1 คน จากการที่กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ยิงจรวดโดยไม่ระบุเป้าหมายไปยังอิสราเอล

จากที่ตอนนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าการสู้รบจะจบลง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจึงเรียกร้องให้ทุกประเทศระงับการส่งอาวุธให้กับกลุ่มผู้ขัดแย้งทุกฝ่ายในกาซ่าโดยทันที

“ทั้งสหรัฐอเมริกาและอิร่านต่างมีความผิดในข้อหาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในการสนับสนุนกลุ่มผู้ขัดแย้ง ถ้าหากไม่มีการสนับสนุนเทคโนโลยีทางการทหาร ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งครั้งนี้ คงไม่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจนกว่าจะมีผู้รับผิดชอบจากกลุ่มผู้ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย การส่งอาวุธหรืออุปกรณ์ทางการทหารควรต้องมีการระงับโดยทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้การละเมิดบานปลายไปมากกว่านี้”

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอเรียกร้องให้กรณีในอิสราเอลและเขตยึดครองปาเลสไตน์ได้รับการพิจารณาคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ

ในพระราชบัญญัติของสหรัฐฯเรื่องการช่วยเหลือระหว่างประทศระบุว่า สหรัฐฯ “จะไม่ช่วยเหลือหรือสนับสนุนประเทศใดก็ตามที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน” ซึ่งการที่สหรัฐฯยังคงขายน้ำมันให้กับอิสราเองอยู่ถึงแม้จะขัดกับพ.ร.บ.ดังกล่าวก็ตามเพราะว่าทางการสหรัฐฯ อ้างมาตราในพ.ร.บ.ที่ระบุถึงข้อยกเว้นใน “สถานการณ์พิเศษ”

“การที่สหรัฐฯไม่ใส่ใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการส่งน้ำมันและอาวุธไปยังอิสราเอลถือว่าสหรัฐฯไม่ให้ความเคารพต่อหลักการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง” ไบรอัน วู๊ด กล่าว 

ป้ายคำ: 

  • กาซ่า
  • อิสราเอล
  • ปาเลสไตน์
  • ฮามาส
  • ยูเอ็น
  • แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล