ข้อกังวลของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต่อกรณี “บารมี ชัยรัตน์”
วันนี้ (5 ส.ค. 2558) เวลาประมาณ 10.00 น. บารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน และกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พร้อมพูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบพนักงานตำรวจเจ้าของคดีที่สน.สำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่ว่าด้วยการขัดขืนอำนาจปกครอง ที่สืบเนื่องมาจากกิจกรรมชุมนุมของนักศึกษาและนักกิจกรรมเมื่อวันที่ 24-26 มิถุนายน ที่ผ่านมา
พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความ เปิดเผยภายหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่า ตอนนี้ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทนายความจะทำบันทึกคำให้การเพิ่มเติมส่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับพนักงานสอบสวนภายใน 30 วันและจะมีการประสานนัดหมายกับเจ้าพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าผู้ต้องหามารายงานตัวและไม่มีท่าทีหลบหนี จึงไม่มีการควบคุมตัวหรือฝากขัง
ด้านรูเพิร์ต แอ็บบอต (Rupert Abbott) ผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นกังวลอย่างยิ่งต่อกรณีที่นายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจนและกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่ว่าด้วยการขัดขืนอำนาจปกครอง โดยทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้แสดงความกังวลในกรณีนี้ไปกับทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยด้วย เพราะข้อหาดังกล่าวถือเป็นความพยายามอย่างชัดเจนในการขัดขวางการแสดงออกอย่างสงบของผู้ที่มีความเห็นต่าง ซึ่งขัดต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นข้อหาดังกล่าวจะต้องถูกยกเลิกโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งสำนวนคดีดังกล่าวต้องถูกปิดเป็นการถาวร