ที่ประชุมระดับนานาชาติของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ลงมติรับรองนโยบายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของพนักงานบริการ (sex workers)
ที่ประชุมระดับนานาชาติของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
ลงมติรับรองนโยบายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของพนักงานบริการ (sex workers)
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ในที่ประชุมการประชุมสามัญระดับนานาชาติ (International Council Meeting - ICM) ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ได้มีการลงมติครั้งสำคัญเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของพนักงานบริการ (sex workers) โดยมีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรับรองมติที่ให้อำนาจคณะกรรมการบริหารระดับนานาชาติ (International Board) ในการจัดทำและรับรองนโยบายในประเด็นดังกล่าว
ซาลิล เช็ตติ (Salil Shetty) เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า พนักงานบริการหรือผู้ให้บริการทางเพศเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อยู่ชายขอบมากสุดกลุ่มหนึ่งในโลก ส่วนใหญ่มักต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ ความรุนแรง และการปฏิบัติมิชอบอย่างสม่ำเสมอ การขับเคลื่อนในระดับสากลขององค์กรมุ่งทำงานเพื่อให้มีการรับรองนโยบายเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของพนักงานบริการ ที่จะช่วยกำหนดแนวทางการทำงานในอนาคตของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในประเด็นสำคัญนี้
มติดังกล่าวเสนอให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจัดทำนโยบายที่สนับสนุนการลดการเอาผิดทางอาญาสำหรับการบริการทางเพศที่เกิดจากความยินยอมทุกประเภท นโยบายดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัฐต้องให้การประกันว่าพนักงานบริการต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเต็มที่ อย่างเท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์และความรุนแรง
“เราตระหนักดีว่าปัญหาสิทธิมนุษยชนดังกล่าวมีความสำคัญและซับซ้อนอย่างยิ่ง เป็นเหตุให้เราหาทางแก้ไขปัญหานี้จากแง่มุมของมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ นอกจากนั้นเรายังได้ปรึกษาหารือเป็นการภายในจากการประชุมการประชุมสามัญระดับนานาชาติเพื่อรับฟังความเห็นที่แตกต่างจากทั่วโลก” ซาลิล เช็ตติกล่าว
จากการทำวิจัยและปรึกษาหารือเพื่อจัดทำนโยบายนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่า แนวทางนี้จะช่วยปกป้องสิทธิมนุษยชนของพนักงานบริการได้ดีที่สุด และลดความเสี่ยงจากการถูกปฏิบัติมิชอบและการละเมิดที่กำลังเผชิญกันอยู่
จากงานวิจัยเราพบว่าพนักงานบริการต้องเผชิญกับการละเมิดรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการใช้ความรุนแรงทางร่างกายและทางเพศ การจับกุมและควบคุมตัวโดยพลการ การข่มขู่และรีดไถ การค้ามนุษย์ การบังคับตรวจหาเชื้อเอชไอวี และการบังคับให้รับการรักษาพยาบาล ทั้งยังมีการกีดกันบุคคลเหล่านี้ไม่ให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพและบริการด้านที่อยู่อาศัย รวมทั้งการคุ้มครองทางสังคมและกฎหมายอื่น ๆ
นโยบายนี้จัดทำขึ้นจากข้อมูลมากมายที่ได้มาจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานสหประชาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก องค์การสหประชาชาติด้านโรคเอดส์ (UNAIDS) องค์การสหประชาชาติด้านผู้หญิง (UN Women) และผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิด้านสุขภาพ (UN Special Rapporteur on the Right to Health) นอกจากนั้นเรายังได้ทำงานวิจัยในสี่ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา ฮ่องกง นอร์เวย์ ปาปัวนิกินี
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ปรึกษาหารือกับกลุ่มต่าง ๆ ทั้งกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ กลุ่มของผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อการค้าบริการทางเพศ หน่วยงานที่สนับสนุนการยกเลิกโทษประหารชีวิต หน่วยงานสตรีนิยมและตัวแทนสิทธิสตรี นักกิจกรรมด้านความหลากหลายทางเพศ หน่วยงานต่อต้านการค้ามนุษย์ และหน่วยงานด้านเอชไอวี/เอดส์
ทั้งนี้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเห็นว่าการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ทั้งการเอารัดเอาเปรียบทางเพศ และเห็นว่าควรเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายสำหรับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ชัดเจนตามนโยบายใหม่ดังกล่าวและการทำงานด้านอื่นๆ ที่ผ่านมาของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลด้วย
“นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญสำหรับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มตินี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายหรือใช้เวลาอันรวดเร็ว เราต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านจากทั่วโลก รวมทั้งเครือข่ายอีกหลายกลุ่มที่เราได้จัดรับฟังความคิดเห็น ทุกความคิดเห็นของท่านสำคัญต่อการอภิปรายครั้งนี้ ความเห็นของท่านมีส่วนช่วยให้เราบรรลุมติที่สำคัญนี้ ซึ่งจะช่วยกำหนดแนวทางการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในอนาคตของเรา” ซาลิล เช็ตติกล่าว
Global movement votes to adopt policy to protect human rights of sex workers