ทำความรู้จัก "ร่าง พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย"
(ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย)
ความหมายของ “การทรมาน”
เจ้าหน้าที่รัฐกระทำ หรือมีส่วนยุยง ยินยอม รู้เห็นเป็นใจ หรือเกี่ยวข้องในการทำร้ายให้เกิดการบาดเจ็บอย่างสาหัสแก่ร่างกายหรือจิตใจ เพื่อให้ผู้ถูกกระทำหรือบุคคลยอมเปิดเผยข้อมูลหรือรับสารภาพ ยกเว้นการลงโทษที่ชอบด้วยกฎหมาย
ความหมายของ “การบังคับบุคคลให้สูญหาย”
เจ้าหน้าที่รัฐกระทำ หรือบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับคำสั่ง สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจในการจับกุม คุมขัง ลักพา หรือลิดรอนเสรีภาพของบุคคล โดยพยายามปกปิดชะตากรรมหรือที่อยู่ที่บุคคลนั้นๆ
บทลงโทษต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
- ผู้ก่อเหตุจำคุก 5 ปีถึงตลอดชีวิต ปรับ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท แล้วแต่ความรุนแรง
- ผู้บังคับบัญชาที่ละเลยต่อการกระทำผิดดังกล่าวของผู้ใต้บังคับบัญชา รับโทษกึ่งหนึ่ง
คดีความ
- อายุความ 20 ปี
- ข้อมูลที่ได้จากการทรมานหรือบังคับสูญหาย ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อผู้เสียหายได้ แต่ผู้เสียหายสามารถนำไปใช้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ก่อเหตุทรมานหรือผู้บังคับสูญหายได้
- ในคดีบังคับสูญหาย จะต้องสืบสวนจนพบบุคคลที่สูญหาย หรือมีหลักฐานที่น่าเชื่อว่าบุคคลนั้นเสียชีวิตแล้ว หรือศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลสูญหายเท่านั้น
หน้าที่ของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย”
- มีสมาชิกจากภาครัฐ 8 คน และกรรมการสรรหาอีก 8 คน ซึ่งรวมถึงตัวแทนผู้เสียหาย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชน ด้านการแพทย์ และด้านจิตวิทยา
o ภาครัฐโดยตำแหน่งจำนวน 11 คน
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ประธาน)
- ปลัดกระทรวงยุติธรรม (รองประธาน)
- ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ
o องค์กรวิชาชีพกฎหมายโดยตำแหน่ง 1 คน
- นายกสภาทนายความ
o ผู้ทรงคุณวุฒิโดยการสรรหา 6 คน
-ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชน 4 คน
-ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ 1 คน
- ผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตวิทยา 1 คน
- เสนอให้ออกระเบียบหรือปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้เกิดทรมานและการบังคับให้สูญหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
- ร้องต่อศาลให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังที่ถูกทรมาน
- เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่รับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวน
- กำหนดมาตรการเยียวยาผู้เสียหายและญาติ
- ประสานช่วยเหลือ สืบหา และติดตามผู้เสียหาย บุคคลสูญหายตามพรบ.ฉบับนี้
ทำไมต้องผ่านร่าง พ.ร.บ. ทรมานและอุ้มหาย?
ถ้ายังไม่มีกฎหมายฉบับนี้...
- เจ้าหน้าที่รัฐที่ก่อเหตุหรือเกี่ยวข้องกับการทรมานไม่ถูกดำเนินคดีทางอาญา
- ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความฟ้องร้องเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ฯ
- เมื่อไม่มีการแจ้งความ ไม่มีการตั้งข้อหา ก็ไม่สามารถร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลหรือศาลไม่รับฟ้อง เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ
ถ้ามีกฎหมานฉบับนี้...
- การทรมานและการอุ้มหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐจะกลายเป็นความผิดทางอาญา
- การสอบสวนกรณีทรมานและการอุ้มหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐต้องอิสระ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
- มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย
- มีการเยียวยาผู้เสียหายและญาติผู้เสียหาย (กรณีอุ้มหายหรือเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวที่มีสาเหตุมาจากการทรมาน)
- เป็นไปตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลและอนุสัญญาต่างๆ ที่ไทยเป็นภาคีอยู่
ข้อสังเกต
คณะกรรมการฯ ตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ขาดความเป็นอิสระจากภาครัฐ เพราะมีคนจากภาครัฐถึง 8 คนจากทั้งหมด 16 คน ขณะที่อีก 8 คนก็คัดเลือกหรือแต่งตั้งผ่านกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพซึ่งก็เป็นหน่วยงานรัฐ จึงอาจเกิดการเอื้อผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุทรมานได้ และยังมีมาตรา 21 ที่เปิดโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกจำกัดเสรีภาพโดยอ้างเหตุผลว่าจะเป็นอันตรายต่อบุคคล หรือความเป็นส่วนตัว หรือเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนคดีอาญา ซึ่งทำให้การควบคุมตัวดังกล่าวเป็นการควบคุมตัวลับที่ขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชน