แอมเนสตี้หารือกระทรวงยุติธรรม ติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนไทย
แอมเนสตี้หารือกระทรวงยุติธรรม
ติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนไทย
ตัวแทนแอมเนสตี้เข้าพบปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดตามประเด็นทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การบังคับบุคลลให้สูญหาย การยุติโทษประหารชีวิต และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
แชมพา พาเทล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมหารือกับนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในประเด็นการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การบังคับบุคลลให้สูญหาย การยุติโทษประหารชีวิต และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
แชมพา พาเทล แสดงความพึงพอใจในความพยายามของกระทรวงยุติธรรมในการเสนอ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ต่อคณะรัฐมนตรี แต่ยังมีความกังวลในเรื่องความเป็นอิสระของคณะกรรมการตามร่างฯ ดังกล่าวซึ่งมีสัดส่วนจากข้าราชการเกือบทั้งหมด จึงอยากให้มีการพิจารณาให้คณะกรรมการเป็นอิสระจากรัฐอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ยอมรับว่าความเป็นอิสระของคณะกรรมการดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เนื่องจากประเพณีกฎหมายไทยกำหนดให้มีกรรมการส่วนใหญ่มาจากข้าราชการ ส่วนที่เหลือมาจากภาคประชาสังคมและผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ นายชาญเชาว์ระบุว่ากระทรวงยุติธรรมจะเสนอร่างฯ พร้อมวาระการให้สัตยาบันใน อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (CED) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือนนี้ เพื่อให้มีมติเห็นชอบภายในเดือนเมษายน ก่อนจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาตามกระบวนการต่อไป
สำหรับการยุติโทษประหารชีวิต นายชาญเชาวน์กล่าวว่ากระทรวงยุติธรรมยังไม่สามารถดำเนินการในเวลานี้ได้ เนื่องจากประเด็นนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่ากระทรวงกำลังพยายามบรรลุการยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยยินดีรับฟังประสบการณ์เกี่ยวกับนานาประเทศและภูมิภาคอื่นจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
ในประเด็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน นางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ รองประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เสนอให้หยิบเรื่อง “White List” มาพูดคุยอีกครั้งเพื่อหาแนวทางปกป้องและคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้จริงในทางปฏิบัติ โดยเชิญนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเข้าร่วมหารือด้วย